Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


 
บ้านบ้าน  ค้นหาค้นหา  Latest imagesLatest images  สมัครสมาชิก(Register)สมัครสมาชิก(Register)  เข้าสู่ระบบ(Log in)  

 

 ระบบการศึกษาไทย VS เกาหลี !!!

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
madoo_som205
เด็กขยันโพส
เด็กขยันโพส
madoo_som205


จำนวนข้อความ : 35
Join date : 10/05/2010

ระบบการศึกษาไทย VS เกาหลี !!! Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: ระบบการศึกษาไทย VS เกาหลี !!!   ระบบการศึกษาไทย VS เกาหลี !!! EmptyThu May 13, 2010 3:37 pm

คณาจารย์ภาควิชาหลักสูตร การสอนและเทคโนโลยีการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินทางไปศึกษาเรียนรู้ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเร็วๆ นี้ ภายใต้แนวความคิด "เกาหลีใหม่" ผ่านการปฏิรูปการศึกษา ที่นำเด็กเกาหลีทั้งประเทศไปสู่ "การเป็นอุตสาหกรรม โลก Cyber การศึกษา และความเป็นชนชาติเกาหลี"

เดิมทีประเทศไทยมีความทรงจำอันดีกับประเทศเกาหลีใต้ 3 อย่าง คือ โสมเกาหลี อาหารพื้นเมืองกิมจิ และบทเพลงอันแสนเศร้าอารีดัง ในปัจจุบันเกาหลีใต้ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของตนไว้ แต่การปฏิรูปการศึกษา การเมืองที่เข้มแข็งมีเสถียรภาพ ผู้คนมีวินัย ทำงานหนัก มีความเป็นชาตินิยมสูง ได้นำพาประเทศไปสู่ประเทศที่พัฒนา เป็นเสือเศรษฐกิจ 1 ใน 5 ของเอเชีย

ที่สำคัญเกิดวัฒนธรรม "เกาหลีฟีเวอร์" ไปค่อนโลก มีบริษัทข้ามชาติ ซัมซุง แดวู แอลจี และอื่นๆ มีความก้าวหน้าไปสู่โลกของการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง (Global Community)

ทำไมเกาหลีใต้มีอัตราความเจริญก้าวหน้าอย่างมากมาย เป็นประเทศพัฒนาที่เปิดอย่างเต็มที่ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นเกาหลีของตนไว้ได้ ทั้งที่เกาหลีใต้ตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศมหาอำนาจ ดังเช่น จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย ความเป็นประเทศที่ถูกย่ำยี แบ่งแยกดินแดน การผลัดกันเข้าครอบครองเป็นเวลายาวนาน แต่ด้วยภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นชนชาติ จึงไม่ถูกกลืนสูญหายไป

ในขณะที่ประเทศไทยในยุคหนึ่งมีการพัฒนา มีการปฏิรูปการศึกษา การเปิดประเทศ การเตรียมเป็นประเทศอุตสาหกรรมในเวลาใกล้เคียงกัน แต่กลับล้มลุกคลุกคลาน ล้มเหลวด้านการเตรียมกำลังคน การปฏิรูปการศึกษาไม่ก้าวหน้า เด็กและเยาวชนคลั่งไคล้วัฒนธรรมต่างชาติ

ส่งผลให้ประเทศไทยล้าหลังเกาหลีใต้ไม่น้อยกว่า 20 ปี ในทุกๆ ด้าน แม้จะเริ่มจากการพัฒนาในเวลาใกล้เคียงกัน

ในเชิงประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ถูกประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าปกครองถึง 800 ปี ตามมาด้วยญี่ปุ่นอีก 30 ปี ที่ขมขื่นยิ่งในช่วงเวลาดังกล่าว รัสเซียเข้ามามีบทบาทสำคัญในสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนแบ่งที่เส้นขนาน 38 องศา เป็นประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
เด็กนักเรียนเกาหลียุคใหม่ ทันสมัย สร้างสรรค์ ชาตินิยม




ความที่ต้องสู้ ดิ้นรน การนำประเทศให้อยู่รอดได้ เราได้เรียนรู้ถึงสัญลักษณ์สัตว์ 3 ประเภทที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ คือภูมิประเทศ่ในแผนที่คล้ายเสือ มังกรเป็นตัวแทนของกษัตริย์ในอดีต และนกฟีนิกซ์ ความเป็นอมตะที่เกิดใหม่ได้ คนเกาหลีมีรูปร่างหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ตนเองสืบเชื้อสายมาจากชาวฮั่น มองโกเลีย มีภาษาเป็นของตัวเอง "ฮันกึน" 10 เสียงสระ 14 พยัญชนะ ชุดประจำชาติอันสวยงาม ฮันบกมีเมืองหลวงคือกรุงโซล เล็กกว่ากรุงเทพมหานคร 3 เท่า แต่มีประชากรใกล้เคียงกัน 12 ล้านคน เป็นเมืองหลวง 1 ใน 3 ที่ประชากรหนาแน่นที่สุด แต่รถไม่ติดเหมือนกรุงเทพฯ เพราะนำผังเมืองของสหรัฐอเมริกามาเป็นต้นแบบ น้ำใสสะอาด ภูมิประเทศเป็นภูเขาถึง 70% มีแหล่งที่เพราะปลูกน้อย แต่มีแร่ เหล็ก ทองเหลือง พลอยสีม่วงมากมายมหาศาล เงินที่ใช้เป็นวอน (won) เกาหลีใต้มี 4 ฤดูกาลคือ ฤดูหนาว ร้อน ใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วง ประชาชนส่วนใหญ่มีฐานะดี ปานกลางขึ้นไป รายได้ของอาชีพเฉลี่ยอยู่ที่ 1 แสนบาท

วัยรุ่นของเกาหลีใต้เลือกอาชีพเด่นที่นิยม 5 อันดับต้นๆ ได้แก่ ดารา แพทย์ ครู นักกีฬา และวิศวกร ที่มีรายได้ดีมาก แปลกแต่จริงเด็กวัยรุ่นเกาหลีใต้ปัจจุบันรูปร่างสูงใหญ่ มีความเป็นสากลทางตะวันตก หน้าตาสะสวยกว่าคนรุ่นก่อน เป็นเพราะนิยมทำศัลยกรรมตบแต่งใบหน้ากันเป็นอันมากเกือบ 40% ที่นี่มีปัญหายาเสพติดน้อย สังคมเกาหลีใต้เป็นสังคมที่ลูกต้องเชื่อฟังเคารพพ่อแม่ ครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัด ผู้คนที่นี่มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก แทบไม่มีรถญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกามาวิ่งในท้องถนนมากนัก ส่วนใหญ่ใช้สินค้าที่ผลิตขึ้นเองในประเทศ วิถีชีวิตของคนเกาหลีใต้คล้ายกันคือ "กินเร็ว เสียงดัง ทำงานหนัก" กันแทบทุกคน ประเทศจึงอยู่รอดได้จนถึงปัจจุบันนี้

สำหรับการศึกษาของเกาหลีใต้มีความแตกต่างและคล้ายคลึงกันหลายประการ เกาหลีใต้จัดระบบ 6 : 3 : 3 และอุดมศึกษา 4 ปี อัตราการเรียนต่อสูง 99% อุดมศึกษา 50% มีการเลื่อนชั้นอัตโนมัติไม่มีตกซ้ำชั้น มีการกระจายอำนาจลงสู่เขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนเหมือนประเทศไทย ที่แตกต่างมากคือ ประชาชนจะนิยมส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนเอกชนมากกว่าโรงเรียนรัฐบาลที่มีสัดส่วนเอกชนกับรัฐ 70 : 30 ในทางตรงกันข้ามระดับอุดมศึกษา จะนิยมให้ลูกหลานสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐมากกว่ามหาวิทยาลัยเอกชน
คน 3 รุ่น เด็ก หนุ่มสาว ผู้สูงอายุ รักษาวัฒนธรรมเกาเหลี




มหาวิทยาลัย 5 อันดับต้นที่นักเรียนเกาหลีใต้แย่งกันเข้าเรียนมากที่สุด มหาวิทยาลัยโซล โคเรีย ยอนเซ ฮีฮวา ฮานยาง เกาหลีใต้มีระบบสอบเข้าแข่งขันดุเดือด ติวเข้ม เครียดกดดัน ไม่แพ้มหาวิทยาลัย จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ในเทอมสุดท้ายครูต้องสอนเด็กมัธยมฯปลาย 3 เดือนทั้งวันทั้งคืนอย่างเอาเป็นเอาตาย เรียนพิเศษเพิ่มเติม พ่อแม่เข้าวัด นั่งสวดมนต์ ทำสมาธิคล้ายบ้านเราไม่ผิด

ครูในเกาหลีใต้ได้รับการยกย่องเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีสูงมาก เป็นอาชีพต้นๆ ที่ทุกคนอยากเป็น คนเก่งมีความสามารถล้วนมาเป็นครู ทำงานทุ่มเท มีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพ มีระเบียบบังคับห้องเรียนมีนักเรียนไม่เกิน 35 คนต่อครู 2 คน สหภาพครูที่นี่เข้มแข็งเป็นเอกภาพ เป็นองค์กรใหญ่ระดับประเทศที่เจรจาแทนครูได้แทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นระดับเงินเดือน ตำแหน่ง การเลื่อนวิทยฐานะและอื่นๆ เรื่องนี้แตกต่างกับประเทศไทยเป็นที่สุด เรามีปัญหาและล้าหลังมาก จนเป็นตัวถ่วงของระบบการศึกษาไทยในปัจจุบันนี้

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของระบบการศึกษาของเกาหลีใต้ น่าจะเป็นเรื่องของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการสร้างสังคมเกาหลีให้ทันสมัยควบคู่กับความเป็นชนชาติเกาหลีที่เป็นเอกลักษณ์ เกาหลีมีการปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่องทุกรัฐบาล ในการตระเตรียมกำลังคนด้วยการศึกษาสมัยใหม่ เทคโนโลยีในอนาคต และทุกระดับการศึกษามีเป้าหมายตรงกัน

คณาจารย์จากคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ได้เข้าเยี่ยมชมโรงเรียนประถมศึกษา Seokgye โรงเรียนมัธยมศึกษา Garak และมหาวิทยาลัย Ewha Womans ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยผู้หญิงล้วน ในระดับผู้ปฏิบัติ ผู้บริหารโรงเรียนล้วนนำวาระการศึกษา วิสัยทัศน์ของประเทศ เป้าหมายการสร้างกำลังคนมาเป็นปรัชญา นโยบาย แผนการดำเนินงานที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เป็นยุคเข้าสู่ Global Community เป็นเทศโนโลยีทันสมัยที่สุด เลิกระบบ E-Learning ที่ล้าหลัง มีข้อจำกัดมาก แม้แต่ระบบ Mobile Learning ก็ยุติแล้ว แต่นำระบบ U Learning มาใช้แทน ระดับ ป.2 มีโน้ตบุ๊ก และระบบ I-Pod

อาจารย์มหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณงานวิจัย โดยระบบงานวิจัยระบบ U Learning มาเตรียมการ เพื่อนำเกาหลีใต้ไปสู่ประเทศที่มีระบบสารสนเทศที่ดีของโลกให้ได้ ในมหาวิทยาลัยแทบทุกแห่งล้วนเป็นมหาวิทยาลัยวิจัย (R&D) บริษัทเอกชนใหญ่ สมาคมศิษย์เก่าล้วนสนับสนุนงบวิจัยเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม ความรู้สมัยใหม่แทบทั้งสิ้น

ที่ Ewha Womans university ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของเพศหญิง 100% เป็นสถาบันนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานในการต่อสู้ การสร้างโอกาสและความเท่าเทียมกันของหญิงและชาย นักศึกษาหญิงที่นี่เป็นวิศวกร แพทย์ นักกฎหมาย นักธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม หลักสูตรการศึกษาต้องดีกว่า แตกต่าง และมีพลังอำนาจในการเปลี่ยนแปลง ศิษย์เก่าที่นี่จำนวน 21 คน เป็นบุคคลดีเด่นระดับโลก และที่เป็นหญิงทรงพลังและมีชื่อเสียงมีจำนวน 100 คนทีเดียว

เกาหลีใต้ยังให้ความสำคัญในระบบหลักสูตร ทุกระดับจะมี 3 ส่วน คือ เนื้อหาวิชาการ กิจกรรมเสริมหลักสูตรและวิชาเลือก เราจึงเห็นเด็กเกาหลีทุกระดับการศึกษามีกิจกรรมศึกษานอกสถานที่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ หมู่บ้านพื้นเมือง สวนสมุนไพร สวนสนุก แหล่งเรียนรู้ที่เปิดตลอดเวลา เด็กเกาหลีแม้จะเครียดก็มีกิจกรรมและสถานที่ไปทัศนศึกษา เรียนรู้นอกห้องเรียนอย่างสนุกสนาน ไม่คับแคบและหมกมุ่นการเรียนเช่นเด็กไทยของเรา

การไปศึกษาดูงานครั้งนี้ นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะปัจจุบันเกาหลีใต้บรรลุสู่การเปลี่ยนแปลงเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ขณะที่ประเทศไทยเรายังลุ่มๆ ดอนๆ ทะเลาะแตกแยกกันไม่เลิก

คนไทยในเกาหลีบอกว่า ประเทศไทยมีทรัพยากรมาก คนไทยจิตใจดี แต่ขอให้ "จัดการความสบายให้เป็น" มีความสงบสุขเรียบร้อย แล้วคนทั่วโลกจะมาเยี่ยมเที่ยวเมืองไทยแทบทุกชนชาติทีเดียว

โดย สมพงษ์ จิตระดับ สุอังคะวาทิน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01edu15300550&day=2007/05/30§ionid=0107
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
ระบบการศึกษาไทย VS เกาหลี !!!
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
 :: We are KMUTNB :: รวมลูกพระจอมเกล้าพระนครเหนือ-
ไปที่: