สวัสดีครับ การแข่งขันย่อมมีผู้แพ้ และผู้ชนะ เช่นเดียวกับสนามแอดมิชชั่น 53 ที่เพิ่งปิดสมรภูมิไปไม่นานนี้ ที่มีผู้ชนะกว่า 7 หมื่นคน และผู้แพ้กว่า 2 หมื่นคน วันนี้ พี่ลาเต้ มีความในใจ ความรู้สึกของผู้แพ้ในสนามนี้มาแบ่งปันกันครับ
สวัสดีค่ะ หนูรักคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาก หนูตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อครุศาสตร์แต่หนูไม่ติดเลย ไม่มีวันไหนที่หนูไม่อ่านหนังสือ หนูยอมรับว่าหนูเรียนไม่เก่งแต่พ่อบอกให้หนูขยันเข้าไว้ หนูก็อ่านหนังสือตลอดเวลา รอคอยการสอบที่จะเข้าครุศาสตร์ จุฬาให้ได้
>> สอบตรงมา 6 มหาวิทยาลัย ไม่เคยได้ดีใจสักครั้งเดียว T-T
หนูสอบตรงมา 5 - 6 ที่ ก็ไม่ติดเลยซักที่ หนูก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมหนูถึงไม่ติด ทั้งๆ ที่หนูก็ตั้งใจอ่านหนังสือไปสอบทุกครั้งบางทีมันเหนื่อยมันท้อหนูก็นั่งร้องไห้คนเดียว แม่ก็บอกว่า “ไม่เปนไรนะ ขอแค่เราทำให้มันเต็มที่ ทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ผลจะเป็นยังไงก็ชั่งมัน ได้แค่ไหนก็แค่นั้น”
หนูแปลกใจ ตรงที่เพื่อนของหนูเขาไม่เคยอ่านหนังสือด้วยซ้ำ ดูแต่หนังอย่างเดียวกลับสอบติดรับตรงมีที่เรียนหนีหนูกันไปหมด ในห้องมีคนลงแอดมิชชั่นกลางแค่ 3 – 4 คนเท่านั้น หนูก็ถามตัวเองนะว่าผิดตรงไหน เพราะเราตั้งใจมากไป หรือเปล่า
>> เกิดอะไรขึ้น !! ยื่นคะแนนเราหลุดหมดทั้ง 4 อันดับ
หนูก็ได้แต่บอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไรนะ สู้มัน สู้ให้มันถึงที่สุด จนกระทั่งวันสุดท้าย คือวันประกาศผลแอดมิดชั่น” เชื่อมั้ย หนูไม่เคยคิดเลยว่า หนูจะได้สัมผัสกับคำว่า “ไม่ผ่านการคัดเลือกฯ” หนูไม่ติด หนูแทบช๊อก ล้มทั้งยืน หนูร้องไห้จนสติแตกไปหมด ไม่รุ้ว่าจะใช้คำพูดอะไรที่มันจะแทนคำว่าเสียใจ
หนูเห็นเขาร้องเรียนกันหนูก็ไม่รู้ต้องทำยังไง จะร้องเรียนไปเขาก็ไม่สนใจหนูหรอก หนูเคยโทรไปถามที่สำนักงานด้านแอดมิชชั่นแห่งหนึ่ง หนูก็ถามเขาดีๆ แต่เขากลับทำน้ำเสียงไม่พอใจ และก็ด่าหนูกลับมา บอกว่าคะแนนไม่ถึงเลือกสูงเอง หนูก็งงว่าทำไมล่ะ เราอยากเลือกคณะที่เรารัก มันผิดตรงไหน !!
ทุกวันนี้หนูไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ก้มหน้ายอมรับสิ่งที่มันเป็นไป หนูไม่รู้ว่าหนูเป็นคนเก่งไหม แต่หนูขอบอกเลยว่า ระบบแอดมิชชั่นแบบนี้ทำให้เพื่อนหนูที่เป็นคนเก่งหลายๆ คน ต้องกลายเปนคนโง่ เพราะถูกสังคมตีตราว่าแอดมิชชั่นไม่ติด
>> เราอยากเรียนครู เพราะอยากเรียนจริงๆ ไม่ใช่กระแส
สำหรับใครที่ติดจุฬาฯ แล้วเราก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะ ดีใจด้วยทุกคน เรารักครุศาสตร์ด้วยหัวใจของเราจริงๆ เราไม่ได้รักด้วยความที่จุฬามีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ได้รักจุฬาที่มีแต่คนเก่งๆ ไม่ได้รักจุฬาด้วยคำว่าจุฬาเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ1ของไทย แต่เรารักความอบอุ่น และความจริงใจที่ชาวจุฬามีให้เรามีให้เราตลอด
เรารู้สึกรัก และผูกพันกับครุศาสตร์มาก เราอยากเป็นแสงสว่างนำทางมวลชน เราอยากเป็นครู เป็นบันไดเล็กๆ ที่ให้ใครได้ก้าวข้ามไปสู่ความสำเร็จ เราจำได้ว่าก้าวแรกที่เข้าไปเหยียบที่ครุศาสตร์ จุฬาฯ เรารู้สึกอบอุ่น และมีความสุขจิงๆ เราไม่เคยลืมความรู้สึกนั้นเลย เรายังจำภาพวันเก่าๆ ที่เราไปออกค่ายได้ดี ปีกว่าแล้วก็ยังไม่เคยลืมเลย
>> ถึงความหวังจะจบ แต่ความฝันยังไม่จบ ต้องเดินทางต่อ !!
หนูอยากบอกพี่ๆ ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกคนนะคะว่า หนูขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้หนู และคอยเป็นกำลังใจให้หนูตลอดมา หนูอาจไม่ได้มีเลือดชมพูเพลิงเหมือนพี่ๆ แต่หนูก็จะไปตามฝันเรียนครูต่อไปค่ะ หนูจะไม่ยอมทิ้งความฝันที่หนูได้ตั้งใจเอาไว้
หนูเลือกครูไว้ 4 อันดับไม่ติดเลย ต่อจากนี้ไป หนูคงจะไปเรียนครูที่ ม.ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เพื่อตามฝันของหนูต่อไปค่ะ
เอาล่ะครับ ไม่ว่าเราจะแพ้มาสักกี่สนาม แพ้มาซักกี่ครั้ง ขอเพียงเราจงใช้สิ่งเหล่านั้น มาเป็นบทเรียน และใช้เป็นแรงฮึดในการสู้ต่อไป เพราะ พี่ลาเต้ เชื่อแน่นอนว่า ไม่มีมนุษย์คนไหนไม่เคยแพ้ และ การแพ้ จะทำให้เรา “ชนะ” ในวันข้างหน้าครับ
น้องๆ คนไหนที่พลาดหวังจากแอดมิชชั่น จงเดินหน้าสู้ต่อไป ยังมีมหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยเปิดรอต้อนรับน้องๆ อยู่ ที่แห่งนั้นสังคมดีมากๆ จงตั้งใจเรียนคว้าเกียรตินิยมมาให้พ่อแม่ได้ภาคภูมิใจ แล้วน้องๆ จะรู้ว่า วินาทีไหนจะยิ่งใหญ่กว่ากันครับ
บทความโดย พี่ลาเต้ จากคอลัมน์ Admission > เคล็ดลับเทคนิคแอดมิชชั่น เว็บไซต์เด็กดีดอทคอม